29 March 2013

พิธีชาในสายฝน ame no chaji (ตอนที่ ๔)

บันทึก "พิธีชาในสายฝน ame no chaji" ตอนที่ ๔ 
                                                       โดย Tee Jongrak (จงรักษ์ กิตติวรการ)



ซุปเห็ด ต้มกิมจิ
ต้นหอมกิมจิ ปลาหมึกแห้งกิมจิ ใบปอกิมจิ ผักกาดขาวกิมจิ หอยดอง ปลาทอดคลุกซี่อิ้ว กระเทียมดอง เมนไทโกะ(ไข่ปลาค๊อดดองเผ็ด) ปลาหมึกกิมจิ
เมื่อเรียงถ่านเสร็จ เป็นเวลาที่ต้องรอให้ถ่านติดไฟ และน้ำในหม้อเดือด  ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงมื้ออาหารกลางวัน  คุณจอห์น และคนอื่นๆ ช่วยกันกุลีกุจอ จัดโน้น เตรียมนี้ ตั้งโต๊ะ เตรียมเครื่องดื่ม  อาหารกลางวันเป็นอาหารเกาหลีแบบง่ายๆ  มีสารพัดกิมจิที่เป็นเครื่องแกล้มถูกจัดลงจานอย่างรวดเร็ว  กับมีซุปที่ต้มกิมจิผักกาดขาว กับสารพัดเห็ด แต้าหู้และไส้กรอก เจ้าบ้านต้มซุปหม้อใหญ่ แต่ละคนได้ซุปชามโต โตพอกับราเมนญี่ปุ่น

อาหารที่เลี้ยงกันในพิธีน้ำชา หากย้อนกลับไปในยุคต้นๆ ที่ชาเข้ามาในญี่ปุ่นพร้อมกับพุทธศาสนา  ชาจึงอยู่กับพระ  ด้วยชาป่นมัตจะเป็นชาที่เข้มข้น หากดื่มตอนท้องว่าง จะทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน มวนท้องได้ง่าย  เพื่อให้แขกรับชาได้โดยไม่ทุกข์ พระจะจัดอาหารให้แขกกินรองท้องก่อนจะเลี้ยงน้ำชา  อาหารที่ยกมาเลี้ยงเป็นอาหาร ตามแบบพระมีพระกิน  จึงเเรียบง่ายสมถะ ได้แก่ ข้าว ซุป และผักดอง   ความเลอเลิศวิลิศของอาหารในงานเลี้ยงน้ำชาคงคืบคลานเข้ามาภายหลัง เมื่องานเลี้ยงน้ำชาไม่ใช่งานเลี้ยงน้ำชา

มื้อกลางวันของพวกเราออกจะเรียบง่าย กลับไปสู่ ข้าวถ้วย ซุปชาม และมีพวกผักดองประกอบ  เพียงแต่ซุปของพวกเราชามโต และมีเครื่องออกจะมาก ตามความพอมีอันตจะกินของเจ้าบ้านคฤหัสถ์  จะมีพิเศษขึ้น คือ ไวน์ขาวจากบอร์โดซ์  ชนิดดราย รสอมเปรี้ยว แต้มกลิ่นเลมอนแผ่วๆ แช่น้ำแข็งพอเย็นๆ เข้ากันกับอาหารมื้อเปรี้ยวๆได้ดี แถมมีกลิ่นวนิลา เนยนมเล็กน้อยไม่ให้ออกเปรี้ยวอย่างเดียวจนหน้าเบื่อ

เบื้องหลังงาน เจ้าภาพเตรียมขนม
พวกเรากินอาหารกลางวันกันอย่างสบายๆไม่เร่งรีบ ถ้าเทียบกับเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเศษก็นับว่าฉับไว  ที่เวลาเพียงเท่านี้สามารถให้เรารู้รสอาหารได้โดยปราศจากความรีบร้อน  พอจัดการอาหารกลางวันเรียบร้อย ท่านเจ้าบ้านแนะให้พวกเราเข้าห้องน้ำห้องท่า แล้วต้อนพวกเราเข้าห้องน้ำชา  ในขณะที่ตัวเองปลีกไปเตรียมขนม ด้วยความช่วยเหลือของคุณโอ 

ดอกไม้ประดับห้องชา
ไม้แกะรูปนกโผเกาะกิ่งบ๊วย ประดับบนคาน ที่ซ่อนตัวอย่างมิดชิดในเงามืด
ภาพเขียนบนฉากเกาหลี กวนอิมผู้ทรงมหากรุณา
ภาพเขียนบนฉากเกาหลี "เซน"
 
กลิ่นไม้จันทน์ ถูกกระจายไปในห้อง อย่างจางๆ ด้วยความละมุนละไม จากเครื่องหอมในเตาที่ถูกเผา ให้ความรู้สึกแห้ง เย็น สะอาด   บรรยากาศในห้องกลับเป็นสว่างด้วยเจ้าบ้านเลิกมู่ลี่กันแสงขึ้นทั้งหมด ฝนเริ่มปรอย ฟ้าเริ่มใส

บริเวณใกล้ช่องแสงในห้องน้ำชาที่เมื่อเช้าแขวนม้วนอักษร กลับปรากฏดอกไม้สีขาวหนึ่งดอกเสียบในแจกันไม้ที่แขวนแนบเสา   ม้วนอักษรที่โดดเด่นเมื่อเช้าเมื่อถูกปลดลง ม้วนเก็บอย่างเรียบร้อย และวางลงตรงพื้น ณ ที่นั้น  ผิดไปจากการเลี้ยงน้ำชาปกติที่เจ้าบ้านจะเก็บม้วนอักษรออกจากห้องเลย 


แสงสว่างในห้อง เผยให้เห็นมุมอื่นๆในห้องที่ถูกซ่อนในเงามืดเมื่อเช้า  ทั้งลวดลายแกะสลักบนไม้แผ่นโตสีเข้ม ที่ซ่อนตัวอย่างมิดชิด  หรือภาพเขียนบนฉากที่เป็นสีเทาตุ่นๆในเงามืด กลับเป็นสีสดใสด้วยปริมาณแสงที่เติมเข้ามา

เสียงลมผ่านใบสน
เมื่อกลับไปที่หม้อเหล็กต้มน้ำบนเตาที่เติมถ่านเมื่อเช้า หมอบลงข้างๆ แล้วเงี่ยหูเข้าไปใกล้ๆ  น้ำที่กำลังเดือดพล่าน  ถ่านไม้ที่อยู่ใต้นั้นคงติดไฟแดงคุโชน ใบสนเรียวยาวราวเข็มเล่มโตจำนวนนับล้านที่ขึ้นอยู่เต็มต้นสน กำลังขยับสีกันด้วยแรงของลม อยู่ในหม้อต้มน้ำที่ฝาหม้อเปิดเผยอไว้  เสียงนี้เอง คือ เสียงลมผ่านใบสน ที่ถูกกล่าวถึงในบทกวีทั้งจีน และญี่ปุ่น


No comments:

Post a Comment